หัวใจของการติดตั้งพื้นภายในอาคารด้วยไม้จริง คือ ต้องเป็นไม้ที่อบแห้งตามมาตรฐานเท่านั้น อย่าสับสนกับการติดตั้งไม้พื้นภายนอกอาคารนะครับ (ปูพื้นไม้ภายนอก ไม้ต้องเจอแดดฝนอยู่แล้ว การอบแห้งจึงไม่จำเป็น อยู่ที่การเลือกชนิด ขนาดและเทคนิคการติดตั้ง)
ดังนั้นเจ้าของบ้านทุกท่านจำเป็นต้องเลือกไม้ที่มีคุณภาพการผลิตจากโรงงานที่มีมาตรฐานนะครับ เพราะถ้าไม่ใช้เครื่องมือเฉพาะสำหรับวัดความชื้นไม้ เราไม่อาจรู้ได้ด้วยตาเปล่าว่าไม้ที่จะใช้ได้ผ่านการอบแห้งตามมาตรฐานหรือเปล่า กว่าจะรู้ว่าไม้ไม่ได้อบ ก็เกิดปัญหา ภาษาช่างเรียกว่าพื้นระเบิดคืออาการของพื้นไม้ที่ติดตั้งไปแล้วขยายตัวเนื่องจากไม้ที่ติดตั้งไม้ได้คุณภาพ การอบไม้จนได้คุณภาพตามมาตรฐานโรงอบช่วยให้ไม้นิ่งไม่หดตัว ขยายตัว หรือบิดตัวเมื่อติดตั้งอย่างถูกวิธี
การเลือกไม้
การเลือกไม้ ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของท่านเลยครับ เพราะไม้แต่ละชนิดก็มีเอกลักษณ์และโทนสี ที่แตกต่างกันออกไป เช่น ปาร์เก้ไม้แดง ปาร์เก้ไม้มะค่า ปาร์เก้ไม้ตะแบก ปาร์เก้ไม้สัก ทั้งนี้ต้องอย่าลืมหัวใจสำคัญ คือ เรื่องการอบแห้งด้วยนะครับ
ในวันนี้ขออนุญาตกล่าวถึงเฉพาะ ไม้ปาเก้ ซึ่งเป็นที่นิยมในท้องตลาดทั่วไป หมายถึงไม้พื้นขนาดสั้น ที่มีความยาวไม่เกิน 18 นิ้ว แต่ถ้าเป็น ไม้พื้นลิ้นรอบตัว ไม้พื้นอบไสรางลิ้น ที่เป็นไม้ยาวนั้น ขอเป็นโอกาสหน้า เพราะมีรายละเอียด วิธีการติดตั้งอีกรูปแบบหนึ่
การเตรียมพื้นผิว
จำเป็นต้องวางแผนตั้งแต่โครงสร้างบ้าน เพราะความหนาของไม้ปาร์เก้เมื่อติดตั้งเสร็จมีผลต่อความสูงของพื้นอาคาร ประตู ฝ้าเพดานและงานเฟอร์นิเจอร์
การติดตั้ง
ทำได้โดยติดตั้งพื้นปาร์เก้บนปูนคอนกรีตที่ฉาบเรียบแล้วด้วยกาวลาเทค หรือกาวยึดไม้ การฉาบเรียบจำเป็นมาก เพื่อเพิ่มการยึดเกาะ และจะทำให้เราไม่ต้องใช้กาวเกินความจำเป็น ทั้งนี้พื้นคอนกรีตที่ฉาบเรียบต้องไม่มีความชื้นแล้ว
สำหรับการปูพื้นชั้น 1 เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจและให้ความสำคัญเป็นพิเศษมากเรื่องความชื้นและการปูพลาสติกกันชื้นอย่างหนาก่อนเททับด้วยคอนกรีตถ้าไม่อยากให้เกิดปัญหาทีหลัง พื้นปูนซีเมนต์จำเป็นต้องเทคอนกรีตมาแล้วเกิน 1 เดือน เพื่อป้องกันความชื้นที่ยังค้างอยู วิธีเช็คความชื้นง่ายๆ ใช้พลาสติกใสปิดทับพื้นซีเมนต์ที่จะปูไม้ให้สนิทด้วยเทปกาว ทิ้งไว้ 2 อาทิตย์ แล้วดูความเข้มอ่อนของสี ถ้ายังชื้นห้ามปูเด็ดขาด
สำหรับการปูพื้นชั้น 2 ถ้าพื้นซีเมนต์แห้งแล้วสามารถปูได้เลย ไม่จำเป็นต้องใช้พลาสติกกันชื้นการปูพื้น ควรมีระยะความห่างของพื้นไม้กับผนัง เพื่อให้ไม้ได้ขยับตัวและใช้บัวพื้นปิดช่องห่าง
ปัญหาที่พบบ่อย
- ไม้ไม่ได้อบแห้ง ความชื้นมีมากเกินไป
- เตรียมพื้นผิวไม่ดีพอ เช่น ไม่ได้มีการปูพลาสติกกันชื้น พื้นซีเมนต์ไม่แห้งพอ ไม่ได้ฉาบเรียบ พื้นยังขรุขระและเป็นฝุ่น
กรณีบ้านอยู่ติดน้ำ
ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษเรื่องความชื้นจากด้านล่างขึ้นมา ต้องวางพลาสติกกันชื้นอย่างหนาก่อน เทพื้นคอนกรีต หรือสามารถปูไม้อัดยางอย่างหนา วีว่าบอร์ด หรือซีเมนต์บอร์ดแทนการใช้เทพื้นคอนกรีต ก็ได้ครับ
จริงๆแล้วเรื่องการปูพื้นไม้ปาร์เก้ ยังมีเทคนิคในทางปฏิบัติอีกหลายอย่างครับที่ผมยังไม่ได้พูดถึง แต่มันจะลึกเกินไปหน่อย สุดท้ายนี้ผมขอย้ำอีกรอบครับ ว่าหัวใจหลักของการปูพื้นปาร์เก้ในบ้าน คือการใช้ไม้อบแห้งเท่านั้นครับ ขอให้เจ้าของบ้านทุกท่านได้ใช้ไม้พื้นปาร์เก้คุณภาพดีและมีความสุขในบ้านของท่านครับ ( จากในภาพ เป็นฝีมือการปูพื้น ของช่างประจำของผมอีกเช่นเคยครับ ของแบบนี้ต้องพึ่งช่างที่มีประสบการณ์จริงๆ )
